มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi

มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi

เผยแพร่: 22 ก.ย. 2568 โดย: รุ่งเรือง หวนระลึก

มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi

       ในยุคที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายกลายเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งที่ตามมาคือ ความปลอดภัยของเครือข่าย ซึ่งไม่อาจมองข้ามได้ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางธุรกิจ ตลอดจนการลดความเสี่ยงจากการสอดส่องและการโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นเรื่องที่ครัวเรือน สำนักงาน และองค์กรทุกระดับต้องให้ความสำคัญ มาตรฐานความปลอดภัยของ Wi-Fi จึงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลากว่าสองทศวรรษ โดยมี Wi-Fi Alliance เป็นองค์กรหลักในการกำหนด กำกับดูแล และรับรองมาตรฐานความปลอดภัยเหล่านี้ บทความนี้จะพาคุณย้อนดูวิวัฒนาการของมาตรฐานความปลอดภัย Wi-Fi ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงมาตรฐานล่าสุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นของการป้องกันเครือข่ายไร้สาย

      ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เมื่อ Wi-Fi เริ่มถูกนำมาใช้ในบ้านและองค์กร ความท้าทายสำคัญคือการป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีดักฟังข้อมูลที่ส่งผ่านอากาศ องค์กร IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) จึงริเริ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยขึ้น และมอบหมายให้ Wi-Fi Alliance ทำหน้าที่ทดสอบและรับรองอุปกรณ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานนั้น

พัฒนาการของมาตรฐานความปลอดภัย Wi-Fi

มาตรฐาน WEP (Wired Equivalent Privacy) – ปี 1997
      มาตรฐาน WEP เป็นมาตรฐานความปลอดภัย Wi-Fi รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1997 ถูกออกแบบเพื่อให้การสื่อสารไร้สายมีความเป็นส่วนตัวใกล้เคียงกับเครือข่ายแบบมีสาย (LAN) โดยใช้การเข้ารหัส RC4 และคีย์ความยาว 64–128 บิต แม้ว่าจะช่วยให้ผู้ใช้เริ่มมั่นใจในการเชื่อมต่อ Wi-Fi แต่ WEP มีช่องโหว่จำนวนมากและถูกเจาะได้ง่าย จึงถูกยกเลิกการใช้งานในที่สุด

มาตรฐาน WPA (Wi-Fi Protected Access) – ปี 2003

       หลังจากมาตรฐาน WEP ถูกเจาะได้ง่าย Wi-Fi Alliance จึงพัฒนามาตรฐาน WPA ขึ้นในปี 2003 เพื่อเป็นมาตรการชั่วคราวในการยกระดับความปลอดภัย WPA ใช้ TKIP (Temporal Key Integrity Protocol) ซึ่งเปลี่ยนคีย์ทุกแพ็กเก็ตและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ทำให้ปลอดภัยกว่า WEP และสามารถใช้งานกับอุปกรณ์เดิมได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตาม WPA ยังไม่สามารถต้านทานภัยคุกคามที่ซับซ้อนในระยะยาวได้

มาตรฐาน WPA2 (Wi-Fi Protected Access 2) – ปี 2004

      มาตรฐาน WPA2 เปิดตัวในปี 2004 เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัยในระดับองค์กร โดยใช้ AES (Advanced Encryption Standard) และโปรโตคอล CCMP ที่มีความแข็งแรงสูงกว่ามาตรฐาน WPA มาตรฐานนี้กลายเป็นหลักที่ใช้ทั่วโลกกว่า 10 ปี ด้วยความปลอดภัยที่สูง แต่ในปี 2017 ก็พบช่องโหว่ KRACK (Key Reinstallation Attack) ทำให้ WPA2 เริ่มไม่เพียงพอต่อภัยคุกคามสมัยใหม่

มาตรฐาน WPA3 (Wi-Fi Protected Access 3) – ปี 2018

      มาตรฐาน WPA3 เปิดตัวในปี 2018 โดยออกแบบมาเพื่อรับมือภัยคุกคามยุคใหม่และรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน องค์กร หรืออุปกรณ์ IoT WPA3 ใช้เทคโนโลยี SAE (Simultaneous Authentication of Equals) ป้องกันการเดารหัสผ่านแบบ brute force, มี Forward Secrecy ปกป้องข้อมูลเก่าหากรหัสผ่านรั่วไหล และสามารถเข้ารหัสข้อมูลแม้เชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน ทำให้เป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่แข็งแรงที่สุดในปัจจุบัน 

ความท้าทายในอนาคตของ Wi-Fi Security

แม้ WPA3 จะเป็นมาตรฐานล่าสุด แต่การพัฒนาความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi ยังต้องเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ได้แก่:
  • การขยายตัวของ IoT: อุปกรณ์นับพันล้านชิ้นทั่วโลกต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi
  • ภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น: แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI และ Machine Learning ในการเจาะระบบ
  • การพัฒนามาตรฐานใหม่: อาจมี WPA4 หรือมาตรการที่แข็งแกร่งกว่านี้ในอนาคต

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้