หากสอบถามเจ้าของอาคารเก่าหรือผู้ดูแลระบบ จะพบว่าปัญหาหลักของโครงข่ายภายในอาคารแบบเดิม คือความซับซ้อนในการดูแล บำรุงรักษายาก ช่างผู้ดูแลต้องเรียนรู้หลายระบบ ทำให้มีต้นทุนแฝงสูง และเมื่อถึงเวลาปรับปรุงก็ลำบาก เพราะการเดินสายใหม่มักต้องรื้อฝ้าเพดานหรือผนังตกแต่ง ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนมาก ปัญหาหลักที่อาคารส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ได้แก่
1. ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร WiFi ไม่ครอบคลุม
สัญญาณหลุดบ่อย บางจุดแรงแต่ไม่เสถียร ทำให้ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใช้บริการหรือพนักงานในอาคาร ประสบปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า และมักเกิดการร้องเรียนอยู่เสมอ
2. มีระบบหลายระบบแยกสายหลายชุด ซับซ้อนและบำรุงรักษายาก
ต้องเดินสายแยกหลายประเภท ทั้ง อินเทอร์เน็ต ทีวีรวมศูนย์ โทรศัพท์ กล้องวงจรปิด ระบบประกาศ รวมถึงจอประชาสัมพันธ์ดิจิทัล ทำให้ระบบยุ่งยาก ซ่อมบำรุงลำบาก หาช่างที่ดูแลได้ครบทุกระบบยาก และมีต้นทุนสูงเมื่อขยายระบบในอนาคต
3. ปรับปรุงระบบยุ่งยากและสิ้นเปลืองงบประมาณ
เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนต้องมีการอัปเกรดหรือขยายระบบ ต้องรื้อฝ้าหรือผนังใหม่เพื่อเดินสายเพิ่ม ซึ่งรบกวนการใช้งานและทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย
4. ตรวจสอบแก้ปัญหาปัญหาได้ล่าช้าไม่มีระบบมอนิเตอร์หรือการบริหารจัดการจากศูนย์กลาง
ผู้ดูแลระบบไม่สามารถมอนิเตอร์หรือจัดการอุปกรณ์ทุกตัวได้จากศูนย์กลาง ต้องเข้าแก้ไขทีละจุด ทำให้เสียเวลาและตรวจสอบปัญหาได้ช้า
5. ค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง และขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญ
ต้องใช้ช่างหลายคนหรือจ้าง Outsource ดูแลระบบแต่ละส่วน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและควบคุมคุณภาพได้ยาก รวมถึงต้องมี
ระบบเครือข่ายแบบเดิมที่แยกหลายระบบ ต้องอาศัยผู้ดูแลที่มีทักษะเฉพาะทางหลากหลายด้าน ซึ่งไม่ตอบโจทย์อาคารยุคใหม่อีกต่อไปGPON FTTr / FTTx จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยยกระดับโครงข่ายให้เป็นระบบเดียว ครบทุกการเชื่อมต่อ และพร้อมรองรับอนาคตได้อย่างแท้จริง

